พลิกธุรกิจด้วยพันธมิตร

สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ
26 มีนาคม ค.ศ. 2024 โดย
K&O Systems and Consulting

พลิกธุรกิจด้วยพันธมิตร


เนื้อเรื่อง

​วรกรหนุ่มวัย 32 ปี เจ้าของธุรกิจบริการเช่าคอนโดรายย่อย กำลังเดินทางกลับสำนักงานเล็กๆ ของเขา เมื่อสายตาจับภาพแวบหนึ่งจากอาคารสูง ใหม่เอี่ยม ณ ย่านธุรกิจแห่งใหม่ สิ่งก่อสร้างอันทันสมัยนี้ทำให้สมองค่อยๆ หมุนวนด้วยแรงบันดาลใจ


​"ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับโครงการนี้ คงสร้างรายได้งามเลยสิ" วรกรคิดในใจ


​กลับมาที่สำนักงานเล็กๆ แห่งนี้ วรกรมองไปรอบๆ และสำรวจสถานภาพธุรกิจของตัวเอง เขามองเห็นโอกาสและข้อจำกัดในเวลาเดียวกัน ทรัพยากรคนน้อยและเงินทุนจำกัด แต่ก็รับชมจากลูกค้าที่ประทับใจในบริการ จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างเครือข่ายพันธมิตร


​"ถ้ามีพันธมิตรที่เหมาะสม น่าจะสามารถก้าวสู่ระดับใหม่ของธุรกิจนี้ได้"


​หลังการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ วรกรได้เลือกบริษัทรับสร้างขนาดกลางแห่งหนึ่งมาเป็นพันธมิตรหลัก โดยทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ภายในระยะเวลาอันใกล้


​วรกรเดินทางเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพันธมิตรอย่างตื่นเต้น พร้อมนำเสนอแผนธุรกิจเช่าคอนโดที่วางแนวคิดอย่างละเอียดและน่าสนใจ


​"การเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะทำให้ผลประโยชน์ร่วมกันเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน" วรกรเริ่มนำเสนอแนวคิดของเขา


​"นวัตกรรมและบริการในการเช่าคอนโดของเรา จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการของคุณอย่างมหาศาล เช่น การตกแต่งที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่, สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พักอาศัย และการบริหารจัดการด้านการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย"


​เสียงปรบมือตอบรับอย่างพึงพอใจดังมาจากผู้ฟังทุกคน


​จากการหารือและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเป็นทางการ โดยมีการแบ่งปันทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่าย


​บริษัทพันธมิตรจะรับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้าง ขณะที่ธุรกิจของวรกรจะคอยดูแลด้านบริหารจัดการหน่วยเช่า การตกแต่งภายใน และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด


​พวกเขาได้วางแผนการทำงานและกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมระบุตัวชี้วัดความสำเร็จต่างๆ นับจากนี้จะทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด โดยมีการประชุมติดตามผลเป็นประจำ


​หนึ่งปีให้หลัง โครงการเช่าคอนโดใหม่ก็ได้รับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการตกแต่งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง มีการจัดกิจกรรมและบริการใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีการนำกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่มาใช้ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่


​สัมฤทธิ์ผลทำให้ทั้งสองฝ่ายพันธมิตรประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ได้รับคำชมจากลูกค้า และสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพึงพอใจ


​ด้วยความร่วมมือที่ดีเยี่ยม ทำให้วรกรและบริษัทพันธมิตรวางแผนที่จะขยายความร่วมมือในโครงการต่อไปอีก พร้อมกันนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรก็แน่นแฟ้นราวกับเป็นเพื่อนร่วมทางธุรกิจมาช้านาน


หลักการและแนวคิด​​​​

​​​

​ในโลกธุรกิจปัจจุบันที่มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันมากขึ้น การสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (Business Alliance) จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงทรัพยากร ความรู้ เทคโนโลยี และโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ เสริมสร้างจุดแข็ง ลดจุดอ่อน แบ่งปันความเสี่ยง และสร้างคุณค่าร่วมกันกับพันธมิตร อันจะนำไปสู่การเติบโตและความสำเร็จที่ยั่งยืนขององค์กร โดยมีแนวทางในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ดังนี้


  • การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการสร้างพันธมิตรที่ชัดเจน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ขององค์กร เช่น เพื่อขยายตลาด เพิ่มยอดขาย เข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุน แบ่งปันความเสี่ยง สร้างนวัตกรรม เป็นต้น เพื่อใช้เป็นกรอบในการคัดเลือกพันธมิตรและกำหนดรูปแบบความร่วมมือที่เหมาะสม


  • การวิเคราะห์และคัดเลือกพันธมิตรที่มีศักยภาพ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ทรัพยากรและความสามารถที่เกื้อหนุนกัน วัฒนธรรมและค่านิยมที่เข้ากันได้ ความมุ่งมั่นและพร้อมลงทุน ผลประโยชน์ที่จะได้รับร่วมกัน ความเสี่ยงและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น โดยอาจใช้การวิเคราะห์ SWOT การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ การเยี่ยมชมกิจการ การสัมภาษณ์ผู้บริหาร เป็นต้น


  • การสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจกับพันธมิตร ผ่านการสื่อสาร พบปะ แลกเปลี่ยน และทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อสร้างความคุ้นเคย ความเข้าใจ การยอมรับ และพร้อมที่จะร่วมมือกันในระยะยาว โดยอาจมีการแลกเปลี่ยนบุคลากร จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์ จัดตั้งทีมงานร่วม ร่วมลงทุน เยี่ยมชมสถานประกอบการของกันและกัน เป็นต้น


  • การกำหนดรูปแบบและขอบเขตของความร่วมมือที่ชัดเจน เช่น พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ การร่วมทุน การให้สิทธิทางการค้า สัญญาการจัดจำหน่าย การวิจัยและพัฒนาร่วม การจ้างผลิต เป็นต้น พร้อมทั้งกำหนดบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จ การแบ่งปันผลประโยชน์ กรอบระยะเวลา กระบวนการตัดสินใจ การสื่อสาร การแก้ไขข้อพิพาท และเงื่อนไขอื่นๆ ให้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร


  • การบริหารจัดการและติดตามความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิด โดยจัดให้มีผู้รับผิดชอบหรือทีมงานโดยเฉพาะ มีการประชุมหารือ การวางแผน การปฏิบัติ การแก้ปัญหา และการปรับปรุงร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ มีการกำหนดและติดตามความคืบหน้าตามแผนงาน เป้าหมาย และตัวชี้วัด มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างโปร่งใสและทันเวลา พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานให้ผู้บริหารทั้งสององค์กรทราบอย่างต่อเนื่อง


  • การสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้และพัฒนาร่วมกับพันธมิตร โดยแบ่งปันความรู้และทักษะระหว่างกัน เรียนรู้จากความสำเร็จและความผิดพลาด ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และสะท้อนมุมมองซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาความสามารถและศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกัน ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การฝึกอบรม การสัมมนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี กลุ่มคุณภาพ ชุมชนนักปฏิบัติ การให้ทุนวิจัย เป็นต้น


  • การรักษาและต่อยอดความสัมพันธ์กับพันธมิตรในระยะยาว โดยรักษาความไว้วางใจ ความโปร่งใส ความเป็นธรรม และการสื่อสารที่ดี แสดงความจริงใจ เคารพ ให้เกียรติ รักษาชื่อเสียงของพันธมิตร รวมถึงต่อยอดความร่วมมือไปสู่โครงการหรือธุรกิจใหม่ๆ กระชับความสัมพันธ์ในระดับที่สูงขึ้น สร้างความร่วมมือแบบ win-win อย่างยั่งยืน และสร้างเครือข่ายพันธมิตรให้กว้างขึ้นผ่านการแนะนำหรือการสร้างพันธมิตรของพันธมิตร


  • การบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการมีพันธมิตร เช่น ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ การดำเนินงาน การเงิน กฎระเบียบ ชื่อเสียง ข้อมูล ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น โดยการประเมินความเสี่ยงตั้งแต่ก่อนเริ่มความร่วมมือ กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมความเสี่ยงที่รัดกุม ติดตามและทบทวนความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ และมีแผนรับมือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ยังต้องสร้างวัฒนธรรมตระหนักรู้เรื่องความเสี่ยงกับพนักงานและพันธมิตรด้วย


  • การวัดผลและประเมินความสำเร็จของความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเป็นระบบ โดยใช้ดัชนีชี้วัดทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ครอบคลุมผลลัพธ์เชิงการเงิน การตลาด การปฏิบัติการ การเรียนรู้และการเติบโต ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อประเมินความคุ้มค่า ผลกระทบ และแนวทางในการปรับปรุงความร่วมมือให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น รวมถึงใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจต่อยอดหรือยุติความร่วมมือในอนาคต


​การสร้างเครือข่ายพันธมิตรถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม เวลา และการลงทุน แต่หากองค์กรสามารถสร้างและบริหารเครือข่ายพันธมิตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่อการเติบโต การสร้างนวัตกรรม และความสำเร็จในระยะยาว ผู้บริหารจึงต้องให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือในเชิงกลยุทธ์ โดยวางแผน คัดสรรพันธมิตรที่เหมาะสม ดูแลรักษาความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด และพัฒนาความร่วมมือไปสู่ระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างคุณค่าแบบก้าวกระโดดให้แก่ลูกค้า พันธมิตร และองค์กรนั่นเอง