ความวุ่นวายบนท้องถนน

กำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่ง
26 มีนาคม ค.ศ. 2024 โดย
K&O Systems and Consulting

ความวุ่นวายบนท้องถนน


เนื้อเรื่อง

​​

​ในหนึ่งเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เสียงรถยนต์ส่งเสียงร้องคำรามก้องสนั่นราวกับเป็นสัตว์ประหลาดนับพันตัว โลกของการจราจรเป็นดั่งป่าดงดิบที่รกร้างว่างเปล่า ไร้ระเบียบและไร้กฎเกณฑ์ยั้งคนให้เคารพกติกา แต่วันหนึ่งนักบริหารผู้เปี่ยมด้วยปัญญาได้ก้าวเข้ามาในดินแดนอันแสนวุ่นวาย


​เขาวิเคราะห์งานอย่างละเอียดถี่ถ้วน ศึกษาปัญหาจากทุกมุมมอง ตั้งแต่ผู้ขับขี่ที่หุนหันพลันแล่น คนเดินเท้าที่ดูถูกกฎจราจร จนถึงระบบการจัดการที่ล้าสมัย เขาสังเกตเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และความซ้ำซ้อนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน


​นักบริหารจึงเขียนคำบรรยายลักษณะงานให้แก่ทุกฝ่าย ให้ตำรวจจราจรรับผิดชอบในการควบคุมการสัญจร ขณะที่วิศวกรคมนาคมจัดการระบบไฟจราจร ฝ่ายสื่อสารทำหน้าที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน เขาจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ชัดเจน วางแผนการตลาดเพื่อสร้างจิตสำนึกจราจรในสังคม และฝึกอบรมพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ


​แผนการของนักบริหารผู้นี้เปรียบเสมือนเวทมนตร์คาถา สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์ สถานการณ์การจราจรที่เคยคับคั่งวุ่นวายกลายเป็นระบบที่ราบรื่น ผู้ขับขี่และคนเดินเท้าเคารพกฎจราจรมากขึ้น เมื่อทุกฝ่ายเข้าใจบทบาทหน้าที่และร่วมมือกัน การจราจรจึงเป็นระเบียบเรียบร้อยดั่งเมืองในฝัน ที่หล่อหลอมด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและงดงามดั่งนิทานเรื่องหนึ่ง


​บทเรียนจากเรื่องนี้ก็คือ แม้สถานการณ์บางครั้งจะดูวุ่นวายซับซ้อน แต่การกำหนดบทบาทหน้าที่และระบบการทำงานที่ชัดเจน การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายจะนำมาซึ่งความสำเร็จ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ความโกลาหลกลายเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ในที่สุด


หลักการและแนวคิด​​​​ ​​​


​การกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ (Roles and Responsibilities) เป็นการระบุขอบเขตของงาน ภาระหน้าที่ และความคาดหวังที่ชัดเจนสำหรับแต่ละตำแหน่งงานภายในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้พนักงานเข้าใจบทบาทของตนเอง รู้ว่าต้องทำอะไร อย่างไร เพื่อใคร และภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ใด ตลอดจนช่วยให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง ราบรื่น และสอดประสานกันระหว่างตำแหน่งและหน่วยงานต่างๆ การกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนจะช่วยลดความสับสน ความขัดแย้ง และความซ้ำซ้อนในการทำงาน อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานในการสรรหา การฝึกอบรมพัฒนา การประเมินผลงาน และการวางแผนความก้าวหน้าในอาชีพของพนักงาน โดยมีแนวทางที่สำคัญ ดังนี้


  • การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) โดยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบ ขั้นตอนการทำงาน ความรู้และทักษะที่จำเป็น สภาพแวดล้อมในการทำงาน และเกณฑ์การประเมินผลงานของแต่ละตำแหน่ง ซึ่งอาจใช้วิธีการต่างๆ เช่น การสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติงาน การสังเกตการทำงาน การใช้แบบสอบถาม การประชุมกลุ่ม การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น


  • การเขียนคำบรรยายลักษณะงาน (Job Description) ซึ่งเป็นเอกสารที่ระบุถึงขอบเขต หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ความสัมพันธ์กับตำแหน่งอื่น สภาพการทำงาน คุณสมบัติและความสามารถที่จำเป็นสำหรับแต่ละตำแหน่งงาน ทั้งนี้ควรเขียนให้กระชับ ชัดเจน ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน สามารถสื่อสารให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจได้ง่าย และนำไปใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติได้จริง


  • การจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Performance Standard) โดยกำหนดเกณฑ์ ตัวชี้วัด หรือระดับของผลการปฏิบัติงานที่คาดหวังสำหรับแต่ละตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นกรอบในการติดตามและประเมินผลการทำงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งใช้ในการให้ข้อมูลป้อนกลับและพัฒนาผลการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างต่อเนื่อง


  • การสื่อสารและทำความเข้าใจกับพนักงานให้ชัดเจน โดยอาจใช้การปฐมนิเทศ การฝึกอบรม คู่มือการทำงาน การพูดคุยกับหัวหน้างาน หรือระบบพี่เลี้ยง เพื่อให้พนักงานรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท ความรับผิดชอบ และความคาดหวังที่มีต่อตำแหน่งของตน ตลอดจนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างงานของตนกับเป้าหมายขององค์กร และพร้อมที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุผลสำเร็จ


  • การทบทวนและปรับปรุงบทบาทหน้าที่ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เนื่องจากงาน เทคโนโลยี กระบวนการ และสภาพแวดล้อมต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรมีการทบทวนและปรับปรุงบทบาทหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งเป็นระยะๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการขององค์กร ซึ่งอาจรวมถึงการเพิ่ม ลด หรือเปลี่ยนแปลงหน้าที่ความรับผิดชอบให้เหมาะสมยิ่งขึ้น


​โดยสรุป การกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจนจะช่วยให้พนักงานปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และสอดประสานกัน เกิดความราบรื่นในการทำงาน บรรลุเป้าหมายขององค์กร และพัฒนาศักยภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ผู้บริหารจึงควรให้ความสำคัญ จัดสรรเวลา และทรัพยากรในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมทั้งสื่อสารและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน และปรับปรุงบทบาทหน้าที่ให้มีความเหมาะสมและทันสมัยอยู่เสมอ