อาจารย์กับการออกแบบองค์กร

สร้างโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม
26 มีนาคม ค.ศ. 2024 โดย
K&O Systems and Consulting

อาจารย์กับการออกแบบองค์กร


เนื้อเรื่อง

​​

​วันนี้อาจารย์สมชายกำลังสอนเรื่องการจัดโครงสร้างองค์กรให้นักศึกษาชั้นปริญญาโท อาจารย์เล่าว่า "เมื่อเราจะทำธุรกิจหรือดำเนินองค์กรใดๆ การออกแบบโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมนั้นสำคัญมาก เหมือนเราจะสร้างบ้านหลังใหม่ หากวางแผนผังไม่ดีจะส่งผลกระทบในระยะยาว"


​"จินตนาการดูนะครับ เราเปรียบเสมือนสถาปนิกกำลังออกแบบองค์กรของตัวเอง ขั้นแรกเราต้องกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กรก่อน เช่น เราจะเน้นมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม หรือจะแข่งขันด้านต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง เพราะโครงสร้างที่ดีต้องสอดคล้องกับพันธกิจนี้"


​"เมื่อกำหนดกลยุทธ์ได้แล้ว เราจึงเลือกรูปแบบโครงสร้างที่เหมาะสม เช่น องค์กรนวัตกรรมอาจเลือกโครงสร้างที่ยืดหยุ่น กระจายอำนาจ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ในขณะที่องค์กรเน้นประสิทธิภาพอาจใช้โครงสร้างแบบเป็นทางการและรวมศูนย์อำนาจมากกว่า"


​"หลักสำคัญคือต้องออกแบบให้ชัดเจน ในเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบ สายบังคับบัญชา แต่ต้องมีความยืดหยุ่นพอที่จะปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ระบบการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ต้องราบรื่น และมีระบบการควบคุมติดตามที่เหมาะสม"


​"สุดท้ายนี้ เราต้องทบทวนและปรับปรุงโครงสร้างองค์กรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมธุรกิจ เมื่อออกแบบโครงสร้างได้ดีแล้ว จะทำให้องค์กรแข็งแกร่ง บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ เหมือนบ้านที่สร้างด้วยฝีมือช่าง"


​นักศึกษาทุกคนต่างจดบันทึกอย่างกระตือรือร้น เพราะอาจารย์สามารถนำเนื้อหาวิชาการมาสอนด้วยการใช้ภาษาและเปรียบเทียบที่เข้าใจง่าย จึงทำให้เห็นภาพการประยุกต์ใช้หลักการออกแบบโครงสร้างองค์กรได้อย่างชัดเจน


​อาจารย์สมชายรู้สึกภูมิใจที่ได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่ศิษย์ เพราะหวังจะปลูกฝังให้นักศึกษาที่จะเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการวางโครงสร้างองค์กรที่ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว


หลักการและแนวคิด​​​​

​​

​โครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) คือ ระบบหรือรูปแบบของการจัดแบ่งงาน การกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ภายในองค์กร ซึ่งจะมีผลต่อประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความสำเร็จขององค์กรเป็นอย่างมาก โครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมจะต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์ เป้าหมาย ขนาด ประเภทธุรกิจ และสภาพแวดล้อมขององค์กร รวมถึงช่วยส่งเสริมการสื่อสาร การประสานงาน การตัดสินใจ และการปรับตัวขององค์กรได้ดียิ่งขึ้น โดยมีหลักในการออกแบบโครงสร้างองค์กรที่ดี ดังนี้


  • ความชัดเจน (Clarity) ในการกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบ และสายการบังคับบัญชาของแต่ละตำแหน่งและหน่วยงาน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจบทบาทของตนเองและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยลดความสับสน ความขัดแย้ง และการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน


  • ความยืดหยุ่น (Flexibility) ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจรวมถึงการปรับลดสายการบังคับบัญชา การกระจายอำนาจการตัดสินใจ การสร้างทีมงานแบบครอสฟังก์ชัน หรือการใช้โครงสร้างแบบเมทริกซ์


  • การประสานงาน (Coordination) ที่ดีระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ลดความขัดแย้งและอุปสรรค ตลอดจนบูรณาการความรู้ ทักษะ และทรัพยากรเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจใช้กลไกต่างๆ เช่น คณะกรรมการ ทีมข้ามสายงาน ระบบสารสนเทศ หรือการประชุมประสานงาน


  • การควบคุม (Control) ที่เหมาะสม โดยมีระบบการรายงาน การติดตาม และการประเมินผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถตรวจสอบ แก้ไขปัญหา และปรับปรุงการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานและบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่เข้มงวดหรือซับซ้อนจนเกินไป เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อความคล่องตัวและนวัตกรรมขององค์กร


  • ความสอดคล้อง (Alignment) กับกลยุทธ์ เป้าหมาย วัฒนธรรม บุคลากร และเทคโนโลยีขององค์กร เพื่อให้โครงสร้างองค์กรสามารถสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น องค์กรที่เน้นกลยุทธ์นวัตกรรมอาจต้องมีโครงสร้างที่ยืดหยุ่น กระจายอำนาจ และส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ในขณะที่องค์กรที่เน้นกลยุทธ์ต้นทุนต่ำอาจต้องมีโครงสร้างที่เป็นทางการ รวมศูนย์ และเน้นการควบคุม เป็นต้น


​นอกจากนี้ ผู้บริหารควรพิจารณารูปแบบขององค์กรที่เหมาะสม เช่น โครงสร้างตามหน้าที่ (Functional Structure) โครงสร้างตามกลุ่มลูกค้าหรือตลาด โครงสร้างตามผลิตภัณฑ์ โครงสร้างแบบเมทริกซ์ โครงสร้างแบบเครือข่าย เป็นต้น รวมถึงการวิเคราะห์และประเมินโครงสร้างองค์กรเป็นระยะๆ เพื่อปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ได้ในระยะยาว