PDPA
เป็นระบบบริหารจัดการความยินยอมและคำร้องขอใช้สิทธิด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกออกแบบเพื่อตอบสนองตามกฎหมายความเป็นส่วนตัว (PDPA) ของประเทศไทย ระบบนี้ช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงการ จัดการข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยได้รับการรับรองจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (MIT)
ทำไมต้องใช้บริการ PDPA
- ประหยัด ทำสัญญาเป็นรายปีในราคาสุดคุ้ม
- ไร้กังวล มีระบบตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยด้านข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ
- สะดวก มีระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้งสยง่ายและควบคุม ติดตามข้อมูลได้ตลอด
- ปลอดภัย รับประกันคุ้มครองข้อมูลสูญหาย (Data Loss) ข้อมูลเสียหาย (Data Leak) การได้รับความเสียหายจากไวรัส (Virus) และการได้รับความเสียหายจาก มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware)
ประโยชน์ของ PDPA
- ความเป็นส่วนตัว: ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของบุคคล โดยให้บุคคลมีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง และมีสิทธิ์ในการเข้าถึง แก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองจากฐานข้อมูลขององค์กรที่ดำเนินการกับข้อมูลดังกล่าว
- ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ: ช่วยให้องค์กรที่ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้นในการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล นี้ช่วยให้บุคคลมีความไว้วางใจในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองกับองค์กร
- ปฏิบัติตามกฎหมาย: ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายในการจัดเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล นี้ช่วยให้องค์กรหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากคดีความเสียหายทางกฎหมาย
- การสร้างคุณค่าในธุรกิจ: การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องและมีความคุณค่าทางธุรกิจ นี้ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือในลูกค้าและสหพันธ์ธุรกิจ.
- การป้องกันการแฮ็คและการรั่วไหลข้อมูล: ช่วยให้องค์กรมีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการแฮ็คและการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการแก้ไขปัญหา
- การปรับตัวและปรับเปลี่ยน: ส่งเสริมให้องค์กรต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เข้าอกเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายและความต้องการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- ปฏิบัติตามมาตรฐานนานาชาติ: การปฏิบัติตาม ช่วยให้องค์กรมีมาตรฐานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่ตรงกับมาตรฐานนานาชาติ เช่น GDPR (General Data Protection Regulation) ของยุโรป ซึ่งอาจช่วยในการทำธุรกิจกับภูมิภาคอื่น
Features PDPA
- จัดเก็บไฟล์ และเนื้อหาที่หลากหลายฝ่านระบบ Cloud Service พร้อมเรียกใช้งานได้ในทันที (Storage Document)
- ค้นหาถึงเนื้อหาเอกสารได้ง่ายและสามารถเรียกใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา (Full Text Search)
- มีระบบ Firewall ที่รักษาความปลอดภัยของข้อมูล และตรวจสอบป้องกันการถูกโจมตีจากผู้ไม่หวังดีต่างๆ (Firewall System)
- มีระบบแจ้งเตือนการลบข้อมูลเมื่อถึงเวลาที่กำหนดของผู้ที่ไม่ผ่านการสมัครงาน และผู้ที่ลาออกจากบริษัท ให้ลบทำลายข้อมูลอย่างถูกต้องตามกฏหมาย (Alarm System)
- มีระบบสำรองข้อมูลที่มีมาตรฐานตามกฎ 3-2-1 Backup Rule ในการช่วยเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (Backup System)
- มีระบบ Workflow อนุมัติงานสามารถตรวจเช็คความคืบหน้าของงาน รวมไปถึงผู้รับผิดขอบงานด้วย (Approval Project)
- มีระบบรองรับสิทธิการเข้าถึง ลบข้อมูลและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเจ้าของข้อมูล (Data Editing System)
- มีระบบอนิเตอร์ที่ช่วยในการควบคุมดูแลการทำงานของระบบได้แบบเรียลไทม์ ช่วยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Monitoring System)
รองรับการทำงาน PDPA
- Flow การแจ้งให้ทราบ (Informed)
- Flow การขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Access)
- Flow การขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability)
- Flow การคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Object)
- Flow การขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตน (Erasure)
- Flow ขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (Restrict Processing)
- Flow การขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Rectification)
เหมาะกับใคร PDPA
- องค์กรและธุรกิจ: องค์กรและธุรกิจที่เก็บและประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พนักงาน หรือบุคคลอื่นใดในกระบวนการธุรกิจของตนเองจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกคุ้มครองและไม่ถูกนำไปใช้โดยไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมาย.
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: นายจ้างหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมาย และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในองค์กร.
- ผู้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: บุคคลที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในงานหรือชีวิตประจำวัน เช่น พนักงานที่ต้องใช้ข้อมูลลูกค้าในการทำงานหรือบุคคลทั่วไปที่ใช้บริการอินเทอร์เน็ต.
- ผู้ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรอื่น: ผู้ที่มีความสัมพันธ์กับองค์กรหรือธุรกิจและต้องการส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรอื่น เช่น พาร์ทเนอร์ธุรกิจ บริษัทค้าปลีก หรือผู้ขาย.
- ผู้ประมวลผล : ผู้ที่จัดการหรือประมวลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล อาจเป็นบุคคลภายในองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับมอบหมายให้ประมวลข้อมูล
- ผู้ควบคุมคุ้มครองข้อมูล (Data Protection Officer – DPO): ผู้ที่มีหน้าที่ควบคุมและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในองค์กร โดยต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติตาม PDPA
- ผู้สร้างและพัฒนาเทคโนโลยี: บริษัทที่สร้างและพัฒนาเทคโนโลยีหรือแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องใส่ใจในการปฏิบัติตามกฏหมาย เพื่อไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
- ผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Service Providers): บริษัทที่ให้บริการคลาวด์และเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในระบบคลาวด์จะต้องรักษามาตรการความปลอดภัยและปฏิบัติตาม PDPA เพื่อป้องกันการแฮ็คและการละเมิดความเป็นส่วนตัว
- บุคคลที่ถูกควบคุมข้อมูล: บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลของตนถูกเก็บรวบรวมหรือใช้งานจะต้องเข้าใจสิทธิและความรับผิดชอบของตนตาม และมีสิทธิในการเรียกร้องความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของตน.
- องค์กรที่ต้องการการปรึกษา: บริษัทหรือองค์กรที่ต้องการคำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยว เพื่อให้บริการและปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
- ผู้ดำเนินการธุรกิจออนไลน์: ผู้ดำเนินธุรกิจออนไลน์ที่มีการเก็บข้อมูลลูกค้าและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการธุรกิจออนไลน์ เช่น ร้านค้าออนไลน์ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อคุ้มครองข้อมูลของลูกค้าและเพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นส่วนตัว
- บุคคลที่มีผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล: บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บและใช้งานอาจมีสิทธิในการร้องเรียนหรือร้องเรียนเมื่อมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
- นักวิชาการและนักศึกษา: นักวิชาการที่ทำการวิจัยหรือสอนเกี่ยวกับกฎหมาย และนักศึกษาที่เรียนหรือศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้จะต้องรู้เรื่อง PDPA เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในกฎหมายและการปฏิบัติตามมันในอนาคต
การใช้กฎหมาย PDPA จะขึ้นอยู่กับลักษณะและบริบทของบุคคลหรือองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล แต่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับกฎหมาย และปฏิบัติตามตามมันเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ในกิจกรรมของตนเอง
หากคุณต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์
กรุณาเยี่ยมชม –> thai-pdpa
ติดต่อเรา 095-9196699, 02 860 6659 ต่อ 206