คลินิกแห่งการเปลี่ยนแปลง
"การเดินทางของดร.สุธีร์ สู่การบริหาร
จัดการที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ"
เนื้อเรื่อง
ในโลกของการแพทย์และการบริหารจัดการ, มีหมอหนึ่งคนที่ชื่อว่า ดร.สุธีร์ ผู้ที่ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งการรักษา แต่ยังเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการบุคลากร ด้วยความเชื่อมั่นว่าทีมงานที่แข็งแกร่งเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในโรงพยาบาลของเขา
ดร.สุธีร์เริ่มต้นโครงการใหม่ที่เรียกว่า "คลินิกแห่งการเรียนรู้" ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาและเติบโตของทีมงาน โดยมีการให้ Feedback และ Coaching เป็นประจำ เพื่อให้ทุกคนในทีมเติบโตไปพร้อมกันกับองค์กร
ในหนึ่งวัน, มีพยาบาลใหม่ชื่อว่า น.ส.เอมิลี่ ที่ต้องปรับตัวกับวิธีการทำงานและวัฒนธรรมของโรงพยาบาล ดร.สุธีร์เข้าใจถึงความท้าทายที่เธอพบเจอ จึงให้ Feedback อย่างสร้างสรรค์และให้คำแนะนำผ่านกระบวนการ Coaching ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและแนวทางการพัฒนาสำหรับเธอ
โดยเริ่มจากการชมเชยเกี่ยวกับความพยายามและการทำงานอย่างหนักของเธอ ก่อนที่จะแนะนำในส่วนที่ต้องปรับปรุง ดร.สุธีร์ใช้วิธีถามคำถามปลายเปิดเพื่อกระตุ้นให้เธอคิดและหาทางแก้ไขด้วยตัวเอง พร้อมทั้งให้เธอมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและเสนอแนวทางการปรับปรุง
ผลลัพธ์จากกระบวนการนี้เป็นที่น่าพอใจ เอมิลี่ไม่เพียงแต่เรียนรู้วิธีการทำงานที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเติบโตในทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีม ทั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสมาชิกในทีมอื่นๆ และกับดร.สุธีร์เอง
ดร.สุธีร์ยังนำแนวทางนี้ไปใช้กับทุกคนในทีม ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรสนับสนุน โดยการให้ Feedback และ Coaching อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ทุกคนเห็นถึงจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา สร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ที่ได้คือการเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้ในวัฒนธรรมการทำงานของโรงพยาบาล ทีมงานมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาและตัดสินใจได้ดีขึ้น ทำให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ดร.สุธีร์ก็ได้พัฒนาทักษะการเป็นผู้นำและการสื่อสารที่ดีขึ้น สร้างบรรยากาศที่ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จร่วมกัน
เรื่องราวของดร.สุธีร์และ "คลินิกแห่งการเรียนรู้" นี้สะท้อนให้เห็นว่าการให้ Feedback และ Coaching อย่างสร้างสรรค์ไม่เพียงช่วยพัฒนาบุคคลแต่ละคนในทีมเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสามารถของทีมในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในองค์กร
หลักการและแนวคิด
การให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) และการสอนงาน (Coaching) เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้ตามเป้าหมายและมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยหัวหน้างานเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการให้ Feedback และ Coaching กับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งควรทำอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ดังนี้
วิธีการให้ Feedback อย่างสร้างสรรค์
- ให้ทันทีหลังจากที่สังเกตเห็นพฤติกรรมหรือผลงาน ไม่ปล่อยเวลาให้นานเกินไป
- เริ่มต้นด้วยการชื่นชมในสิ่งที่ทำได้ดี (Positive Feedback) ก่อนที่จะพูดถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุง
- เน้น Feedback ที่พฤติกรรมและผลงาน ไม่ใช่ตัวบุคคล เพื่อไม่ให้รู้สึกถูกโจมตี
- ระบุให้ชัดเจนว่าพฤติกรรมหรือผลงานเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบต่องานอย่างไร ควรปรับเปลี่ยนอย่างไร
- ให้เหตุผลประกอบว่าทำไมจึงต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้เห็นความสำคัญ
- เปิดโอกาสให้ผู้รับ Feedback ได้ชี้แจง แสดงความคิดเห็น และให้ข้อมูลเพิ่มเติม
- ร่วมกันสรุปประเด็นที่ต้องพัฒนา และวางแผนการนำไปปฏิบัติ
- ให้ Feedback ในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละครั้ง ไม่มากเกินไปจนรับไม่ไหว
- ให้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
- มีการติดตามผลการปรับปรุงและพัฒนาตามที่ได้รับ Feedback ไปแล้ว
วิธีการ Coaching อย่างสร้างสรรค์
- สร้างความไว้วางใจและการยอมรับในตัวผู้รับการสอนงาน ด้วยทัศนคติเชิงบวก
- กำหนดเป้าหมายการสอนงานในแต่ละครั้งให้ชัดเจน สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับการสอนงาน
- เริ่มต้นจากสิ่งที่เขาสนใจ อยากเรียนรู้ และมีแรงจูงใจที่จะพัฒนา
- ใช้การถามคำถามปลายเปิดเพื่อกระตุ้นการคิด เช่น อะไร อย่างไร ทำไม ถ้า... ฯลฯ
- ฟังอย่างตั้งใจ พยายามทำความเข้าใจความคิดของผู้รับการสอนงานโดยไม่ด่วนตัดสิน
- ชี้ให้เห็นมุมมองใหม่ๆ และทางเลือกที่หลากหลาย แทนการบอกคำตอบสำเร็จรูป
- ให้อำนาจในการตัดสินใจแก่ผู้รับการสอนงาน ในการเลือกแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
- ให้คำชื่นชมที่จริงใจ จำเพาะเจาะจง เมื่อทำอะไรได้ดี เพื่อสร้างกำลังใจ
- ท้าทายให้ลองทำในสิ่งที่ยากขึ้น เพื่อขยายขีดความสามารถของผู้รับการสอนงาน
- สรุปประเด็นสำคัญและสิ่งที่ได้เรียนรู้ในการสอนงานแต่ละครั้ง เพื่อเน้นย้ำและจดจำได้แม่นยำ
ประโยชน์ของการให้ Feedback และ Coaching อย่างสร้างสรรค์
- บุคลากรได้รับรู้จุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาของตนเองอย่างชัดเจน
- ช่วยให้เห็นแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง
- สร้างแรงจูงใจในการพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง
- พัฒนาความสัมพันธ์และความไว้วางใจระหว่างหัวหน้างานและผู้ใต้บังคับบัญชา
- บุคลากรสามารถแก้ปัญหาและตัดสินใจในงานได้ด้วยตนเองมากขึ้น ลดภาระของหัวหน้างาน
- หัวหน้างานได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำ การสื่อสาร และการสอนงาน
การให้ Feedback และ Coaching เป็นหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของหัวหน้างาน ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาศักยภาพของผู้ใต้บังคับบัญชา ให้สามารถรับผิดชอบงานที่ท้าทายและมีขอบเขตที่กว้างขึ้นได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระของหัวหน้างานแล้ว ยังช่วยสร้างทายาทที่มีศักยภาพ เพื่อสืบทอดงานต่อไปในอนาคตด้วย