ชาเลิศรส

สร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ
26 มีนาคม ค.ศ. 2024 โดย
K&O Systems and Consulting

ชาเลิศรส


เนื้อเรื่อง

​​

​ตั้งแต่เปิดร้านชานมไข่มุกเล็กๆ แห่งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน จนกระทั่งวันนี้ที่ธุรกิจเติบโตเป็นเครือข่ายสาขากว่า 20 แห่งทั่วประเทศ ซูซานนาได้เผชิญกับความท้าทายมากมายในฐานะเจ้าของกิจการหนุ่มสาว แต่ด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่น การคิดนอกกรอบ และการมองเห็นคุณค่าของพนักงาน ทำให้เธอสามารถนำพาธุรกิจก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ไปได้อย่างยิ่งใหญ่


​เส้นทางสู่ความสำเร็จของ "ชาเลิศรส" เริ่มต้นด้วยการที่ซูซานนาตระหนักว่า ปัจจัยสำคัญในการดึงดูดและรักษาพนักงานไว้กับองค์กร คือการจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรมเทียบเท่าหรือดีกว่าคู่แข่ง เธอจึงกำหนดโครงสร้างเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ อย่างรอบคอบ พร้อมทั้งมีการปรับปรุงอยู่เสมอให้ทันสมัยและแข่งขันได้ในตลาดแรงงาน


​นอกจากนี้ ซูซานนายังเปิดโอกาสให้พนักงานได้ก้าวหน้าตามสายอาชีพตามศักยภาพและผลงาน ผ่านการเลื่อนตำแหน่ง การฝึกอบรมพัฒนาทักษะ และการหมุนเวียนงานภายในองค์กร ขณะเดียวกันก็สร้างบรรยากาศการทำงานแบบครอบครัว มีกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ และมุ่งเน้นการทำงานเป็นทีม เพื่อให้พนักงานรู้สึกผูกพัน มีความสุขในการทำงาน และมีส่วนร่วมในความสำเร็จขององค์กร


​"ที่ชาเลิศรส เราให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนเสมือนครอบครัวของเรา พวกเขาคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน" ซูซานนากล่าว "ฉะนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมองค์กรที่ดี มีการยอมรับ เชิดชูเกียรติ และรับฟังความคิดเห็นของพนักงานอย่างจริงจัง เพื่อให้พวกเขามีความสุข มีแรงบันดาลใจ และอยากทุ่มเททำงานเพื่อองค์กรนี้ต่อไป"


​จากจุดเริ่มต้นร้านเล็กๆ ในละแวกชุมชน พร้อมกลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่ลงตัว ทำให้ "ชาเลิศรส" สามารถเติบโตเป็นแบรนด์ชานมไข่มุกชั้นนำของประเทศ มีสาขากระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนี้ ยังเป็นองค์กรที่มีพนักงานผูกพันและอยู่กับองค์กรไปนานๆ ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์บริการที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้าทุกราย


เบื้องหลังความสำเร็จของ "ชาเลิศรส" จึงไม่ได้มีเพียงรสชาติอร่อยเลิศรสของเมนูเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังมีพลังจากการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่ยอดเยี่ยมของซูซานนา ผู้สร้างแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นให้กับพนักงานทุกคนในการทำงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายและความสำเร็จร่วมกัน บนพื้นฐานแห่งคุณค่าและการยึดมั่นในวิสัยทัศน์ร่วมกันขององค์กร ชาเลิศรสจึงกลายเป็นมากกว่าเพียงร้านชา แต่คือร้านที่มอบรสชาติและบริการอันแสนพิเศษให้แก่ผู้คนทั่วไทย


หลักการและแนวคิด​​​​

​​

​การสร้างแรงจูงใจ (Motivation) และรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ (Employee Retention) เป็นกลยุทธ์สำคัญในการบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อกระตุ้นให้พนักงานทุ่มเทความพยายาม มีความผูกพัน และคงอยู่กับองค์กรไปนานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานที่มีศักยภาพสูง มีผลการปฏิบัติงานดีเยี่ยม และเป็นกำลังสำคัญขององค์กร ซึ่งหากสูญเสียพนักงานเหล่านี้ไปจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความต่อเนื่องในการดำเนินงานเป็นอย่างมาก ดังนั้นองค์กรจึงควรใช้กลยุทธ์และเครื่องมือต่างๆ ในการสร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ ดังนี้


  • การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เหมาะสมและเป็นธรรม (Fair Compensation and Benefits) โดยกำหนดโครงสร้างเงินเดือน โบนัส และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่สอดคล้องกับค่างาน ผลการปฏิบัติงาน ความสามารถ ประสบการณ์ และอัตราตลาด รวมถึงมีการทบทวนและปรับปรุงให้ทันสมัยและแข่งขันได้ เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและจูงใจให้คงอยู่กับองค์กรต่อไป


  • การสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Advancement) โดยการวางแผนและสนับสนุนให้พนักงานมีโอกาสเติบโตในสายงานทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ ผ่านการเลื่อนตำแหน่ง การมอบหมายงานที่ท้าทาย การสอนงาน การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะ การหมุนเวียนงาน การมอบหมายโครงการพิเศษ เป็นต้น เพื่อให้พนักงานมองเห็นเส้นทางความก้าวหน้าและโอกาสในการเติบโตในระยะยาว ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจและความผูกพันต่อองค์กร


  • การสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี (Positive Work Environment) โดยการจัดสถานที่ทำงาน เครื่องมือ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เหมาะสม ปลอดภัย และเอื้อต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ การสังสรรค์ การท่องเที่ยว กีฬา งานเลี้ยง เป็นต้น เพื่อให้พนักงานรู้สึกมีความสุข ผ่อนคลาย และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร


  • การให้การยอมรับและเชิดชูเกียรติ (Recognition) โดยการชื่นชม ยกย่อง ประกาศเกียรติคุณ มอบรางวัล ตำแหน่ง หรือสิทธิพิเศษต่างๆ แก่พนักงานที่มีผลงานและพฤติกรรมโดดเด่น ทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทั้งจากผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และองค์กร ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การประชุม จดหมายข่าว อีเมล โซเชียลมีเดีย เป็นต้น เพื่อเป็นการให้กำลังใจ สร้างความภาคภูมิใจ และกระตุ้นให้พนักงานรักษาและพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป


  • การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) โดยการส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานสามารถจัดการเวลาและภาระหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างสมดุล ผ่านนโยบายและสวัสดิการต่างๆ เช่น การจัดตารางการทำงานที่ยืดหยุ่น การทำงานจากที่บ้าน การลาพักร้อน การลากิจ สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ การดูแลบุตรและผู้สูงอายุ กิจกรรมนันทนาการ เป็นต้น เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจ เข้าใจ และพร้อมสนับสนุนให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพควบคู่ไปกับการทำงาน


  • การสร้างวัฒนธรรมและค่านิยมร่วม (Shared Culture and Values) ที่สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของพนักงาน เช่น การเปิดกว้างและโปร่งใส การทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ ความรับผิดชอบต่อสังคม ความยืดหยุ่น ความไว้วางใจ เป็นต้น โดยผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดี มีการสื่อสารและแปลงไปสู่การปฏิบัติจริงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดความภูมิใจและอยากเป็นสมาชิกขององค์กรต่อไป


  • การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของพนักงาน (Employee Voice) โดยการสร้างช่องทางและกระบวนการในการเปิดรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน และความต้องการของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การสำรวจความคิดเห็น การสัมภาษณ์ การประชุมกลุ่มย่อย กล่องรับความคิดเห็น สายด่วน ระบบออนไลน์ เป็นต้น และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ปรับปรุง สื่อสาร และดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับการเห็นคุณค่า มีส่วนร่วม และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อองค์กรต่อไป


​การสร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความมุ่งมั่น ทรัพยากร และความร่วมมือจากทุกคนในองค์กร รวมถึงต้องทำอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง และสอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของพนักงานแต่ละคน แต่หากองค์กรสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิผลก็จะช่วยสร้างขีดความสามารถและความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กรได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว