ปลดปล่อยศักยภาพธุรกิจด้วย Freemium Model

Freemium Model (โมเดลแจกฟรี)
4 เมษายน ค.ศ. 2024 โดย
K&O Systems and Consulting

ปลดปล่อยศักยภาพธุรกิจด้วย Freemium Model


เนื้อเรื่อง​​


​ณ ออฟฟิศใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนวัยทำงาน พลอยและเพื่อนๆ นั่งประชุมกันอย่างออกรส พวกเขากำลังปั้นธุรกิจสตาร์ทอัพด้านแอปพลิเคชันแชทสำหรับองค์กร แต่ยังหาทางขยายฐานผู้ใช้และสร้างรายได้ไม่ได้สักที


​"เรามีฟีเจอร์ที่ดีกว่าคู่แข่งตั้งเยอะ ทำไมคนไม่ยอมจ่ายเงินเป็นสมาชิกสักทีล่ะ" นิคบ่นอย่างหงุดหงิด


​พลอยเงยหน้าขึ้นมาพลางเสนอความเห็น "นั่นสินะ บางทีเราอาจต้องเปลี่ยนโมเดลธุรกิจใหม่แล้วล่ะ เพื่อนเราหลายคนกำลังใช้ Freemium Model กันนะ"


​"Freemium Model? นั่นมันอะไรกัน" นิคสงสัย


​พลอยเล่าให้ฟังอย่างตื่นเต้น "ก็คือเราปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้ฟีเจอร์พื้นฐานของแอปเราได้ฟรีไง แต่ถ้าอยากได้ฟีเจอร์ขั้นสูงหรือพื้นที่เพิ่มก็ต้องจ่ายเป็นสมาชิก"


​พลอยอธิบายต่อ "วิธีนี้จะช่วยให้คนเข้ามาใช้งานได้ง่าย เห็นประโยชน์ของแอปเรา แล้วเดี๋ยวพอเห็นของดีเค้าก็ยอมอัปเกรดเป็นสมาชิกเองแหละ เพื่อนเราหลายเจ้าก็ทำแบบนี้"


​แต่นิคยังกังวล "แล้วเราจะเอาอะไรมาจ่ายต้นทุนให้บริการฟรีล่ะ ไหนจะเซิร์ฟเวอร์ ไหนจะทีมซัพพอร์ต?"


​พลอยตอบอย่างมั่นใจ "อันนั้นไม่ต้องห่วง ต้นทุนให้ผู้ใช้ฟรีมันต่ำกว่าลูกค้าจ่ายตังค์อยู่แล้ว แถมเค้ายังช่วยโปรโมทให้เราฟรีๆ ด้วย ขอแค่เราต้องทำให้ฟีเจอร์พรีเมียมมีของดีจริงๆ คนอัปเกรดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รายได้ก็มาแน่ๆ"


​ทีมงานเริ่มเห็นภาพ พวกเขาช่วยกันออกแบบแพ็คเกจพรีเมียมที่ให้คุณค่าเพิ่มชัดเจน ทั้งความปลอดภัย พื้นที่เก็บข้อมูล และฟีเจอร์ล้ำๆ อีกมากมาย


​ในไม่ช้า แอปขององค์กรของพวกเขาก็แพร่หลายไปในหมู่ผู้ใช้งาน การบอกต่อแบบปากต่อปากทำให้ฐานผู้ใช้ฟรีเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านอย่างรวดเร็ว และแน่นอน ผู้ใช้จำนวนมากเลือกอัปเกรดเป็นแพ็คเกจพรีเมียม เพราะคุ้มค่าเกินราคา


​ในงานสัมมนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พลอยได้ขึ้นเวทีแชร์เคล็ดลับความสำเร็จ


​"สุดท้ายแล้ว Freemium Model ไม่ใช่แค่การแจกของฟรี แต่เป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด เพื่อปลดปล่อยให้คนได้สัมผัสคุณภาพสินค้าของเรา สร้างความเชื่อมั่น แล้วเค้าจะกลับมาจ่ายเงินเพื่อสิ่งที่ดีกว่าเอง นี่แหละคือการปลดปล่อยศักยภาพธุรกิจอย่างแท้จริง"


หลักการและแนวคิด​​​​

​​​​​​

​Freemium Model หรือโมเดลแจกฟรี เป็นรูปแบบธุรกิจที่ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้สินค้าหรือบริการพื้นฐานได้ฟรี แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมสำหรับฟีเจอร์ขั้นสูง การอัปเกรดประสบการณ์ หรือการเพิ่มปริมาณการใช้งาน คำว่า "Freemium" มาจากการผสมคำว่า "Free" (ฟรี) กับ "Premium" (พรีเมียม)


  • ข้อดีของ Freemium Model สำหรับธุรกิจ ได้แก่
    • ขยายฐานผู้ใช้ได้รวดเร็วด้วยการเข้าถึงฟรี เพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนเป็นลูกค้าจ่ายเงินในอนาคต
    • ลดแรงต้านและความเสี่ยงในการทดลองใช้สินค้าหรือบริการของผู้ใช้ใหม่
    • ผู้ใช้ฟรีช่วยประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปากและสร้างเครือข่ายผลกระทบ (network effect) ให้ธุรกิจ
    • สามารถเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้ฟรี เพื่อปรับปรุงสินค้าและวางกลยุทธ์ดึงดูดให้อัปเกรด
    • มีต้นทุนให้บริการผู้ใช้ฟรีต่ำ เพราะใช้ทรัพยากรน้อยกว่าเมื่อเทียบกับลูกค้าจ่ายเงิน


  • ข้อควรพิจารณาสำหรับธุรกิจที่ใช้ Freemium Model คือ
    • ต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีพอสำหรับผู้ใช้ฟรี โดยไม่ด้อยไปกว่าคู่แข่งมากนัก
    • ต้องออกแบบฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์ของลูกค้าจ่ายเงินให้คุ้มค่าและแตกต่างจากผู้ใช้ฟรีอย่างชัดเจน
    • ต้องติดตามและวิเคราะห์อัตราการแปลงผู้ใช้ฟรีเป็นลูกค้าจ่ายเงิน (conversion rate) อย่างสม่ำเสมอ
    • ต้องหาสมดุลระ หว่างรายได้จากลูกค้าจ่ายเงินกับต้นทุนในการให้บริการผู้ใช้ฟรี
    • ต้องสื่อสารและทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ฟรีอัปเกรดเป็นลูกค้าจ่ายเงิน


  • ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ Freemium Model ได้แก่
    • Dropbox ให้พื้นที่เก็บไฟล์ออนไลน์ฟรี 2-3 GB และเก็บค่าบริการสำหรับพื้นที่เพิ่มเติม
    • Spotify ให้ผู้ใช้ฟังเพลงฟรีแบบมีโฆษณาคั่น และเสนอแพ็คเกจ Premium ไม่มีโฆษณาด้วยค่าสมาชิกรายเดือน
    • LinkedIn ให้ใช้งานพื้นฐานฟรี แต่จำกัดจำนวนการดูโปรไฟล์ การส่งข้อความ และคุณสมบัติขั้นสูงอื่นๆ
    • Skype ให้โทรหากันฟรี แต่เก็บเงินสำหรับการโทรไปโทรศัพท์พื้นฐานหรือมือถือและฟีเจอร์พิเศษ
    • Duolingo ให้เรียนภาษาต่างประเทศฟรี แต่มีแพ็คเกจ Plus เสริมด้วยค่าสมาชิกรายเดือน


​โดยสรุป Freemium Model เหมาะกับธุรกิจที่มีสินค้าหรือบริการดิจิทัล สามารถให้บริการผู้ใช้ได้โดยมีต้นทุนส่วนเพิ่มต่ำ และมีแนวทางในการสร้างรายได้จากฐานผู้ใช้ฟรีขนาดใหญ่ผ่านการอัปเกรดเป็นลูกค้าพรีเมียม อย่างไรก็ตาม ต้องวางกลยุทธ์การตลาดเพื่อการเปลี่ยนผู้ใช้ฟรีเป็นลูกค้าจ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความน่าสนใจสำหรับทั้งผู้ใช้ฟรีและลูกค้าจ่ายเงิน​


นิ้ว Business Model