Skip to Content

AI Face Scan เทคโนโลยีที่ใช้ในงาน รักษาความปลอดภัย

12 กันยายน ค.ศ. 2024 โดย
AI Face Scan เทคโนโลยีที่ใช้ในงาน รักษาความปลอดภัย
cs

AI Face Scan เทคโนโลยีที่ใช้ในงาน รักษาความปลอดภัย 

 AI Face Scan เทคโนโลยีที่ใช้ในงาน รักษาความปลอดภัย AI Face Scan หรือการสแกนใบหน้าด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ คือระบบที่ใช้ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของบุคคลผ่านการสแกนลักษณะใบหน้า โดยมีการใช้ AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์จุดเด่นของใบหน้า เช่น รูปทรงดวงตา โครงหน้า หรือระยะห่างของอวัยวะต่าง ๆ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการรักษาความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการเข้าถึงสถานที่สำคัญ ระบบรักษาความปลอดภัยในที่ทำงาน หรือการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ส่วนบุคคล

 

AI Face Scan เทคโนโลยีที่ใช้ในงาน รักษาความปลอดภัย 

AI Face Scan ทำงานอย่างไร?

 AI Face Scan ทำงานโดยการจับภาพใบหน้าของบุคคลผ่านกล้องแล้วนำภาพที่ได้มาประมวลผล เทคโนโลยีนี้ใช้ Machine Learning และ Neural Networks ในการเปรียบเทียบลักษณะเฉพาะของใบหน้ากับฐานข้อมูลที่มีการจัดเก็บไว้ ถ้าระบบพบความตรงกัน ก็จะสามารถยืนยันตัวตนได้ทันที ซึ่งการทำงานนี้สามารถทำได้ภายในไม่กี่วินาที 

การทำงานของ AI Face Scan แบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้:

1. การตรวจจับใบหน้า (Face Detection):

 ขั้นตอนแรกของการสแกนใบหน้าคือการตรวจจับใบหน้าที่ปรากฏในภาพ โดยใช้กล้องหรือเซ็นเซอร์ที่สามารถจับภาพใบหน้าได้อย่างชัดเจน ในขั้นตอนนี้ AI จะทำการคัดกรองภาพเพื่อให้ได้เฉพาะใบหน้าของบุคคลที่จะทำการสแกน 

2. การประมวลผลใบหน้า (Face Analysis): 

 เมื่อระบบตรวจพบใบหน้าแล้ว จะนำภาพไปประมวลผลเพื่อตรวจสอบลักษณะเฉพาะ เช่น ขนาดของดวงตา รูปทรงจมูก ความยาวของคาง ฯลฯ โดยขั้นตอนนี้ AI จะเปรียบเทียบลักษณะของใบหน้ากับฐานข้อมูลที่ได้ถูกบันทึกไว้ก่อนหน้า 

3. การยืนยันตัวตน (Face Recognition): 

 ขั้นตอนสุดท้ายคือการเปรียบเทียบใบหน้าที่ถูกสแกนกับข้อมูลในฐานข้อมูล เพื่อทำการยืนยันตัวตน หากข้อมูลตรงกัน ระบบจะอนุญาตให้ผ่านได้ หรือแจ้งเตือนหากพบข้อผิดพลาดหรือไม่ตรงกัน 

การทำงานของ AI Face Scan

 การทำงานของ AI Face Scan สามารถแบ่งออกเป็นสามขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่ การตรวจจับใบหน้า (Face Detection), การประมวลผลใบหน้า (Face Analysis) และการยืนยันตัวตน (Face Recognition) แต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดการทำงานที่สำคัญและมีบทบาทที่แตกต่างกัน ดังนี้: 

1. การตรวจจับใบหน้า (Face Detection):

รายละเอียด: ขั้นตอนนี้เป็นการระบุและตรวจจับใบหน้าของบุคคลในภาพหรือวิดีโอ AI จะใช้เทคโนโลยี Computer Vision หรือการมองเห็นของคอมพิวเตอร์ในการระบุบริเวณที่เป็นใบหน้า โดยไม่สนใจส่วนอื่น ๆ ของภาพ เช่น พื้นหลัง หรือวัตถุอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง 

กระบวนการ:

  • กล้องจับภาพ: ระบบเริ่มด้วยการรับภาพจากกล้องหรือเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้ ซึ่งสามารถเป็นกล้อง CCTV, กล้องโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีการบันทึกภาพ
  • อัลกอริทึมการตรวจจับใบหน้า: AI จะใช้โมเดลที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เช่น Haar Cascade, MTCNN หรือ YOLO ซึ่งสามารถระบุได้ว่าในภาพนั้นมีใบหน้าอยู่ที่ตำแหน่งใด
  • การกำหนดตำแหน่งใบหน้า: เมื่อ AI ตรวจพบใบหน้าแล้ว มันจะทำการสร้างกรอบรอบ ๆ ใบหน้า เพื่อระบุพิกัดที่แน่นอนของใบหน้าในภาพ

2. การประมวลผลใบหน้า (Face Analysis):

รายละเอียด: หลังจากที่ระบบตรวจจับใบหน้าได้แล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการประมวลผลเพื่อทำการวิเคราะห์รายละเอียดบนใบหน้าของบุคคลนั้น เช่น รูปทรงใบหน้า, ตำแหน่งและลักษณะของตา, จมูก, ปาก รวมถึงการตรวจสอบเอกลักษณ์เฉพาะตัวต่าง ๆ ที่สามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างของแต่ละคน

กระบวนการ:

  • การแปลงข้อมูลภาพเป็นดิจิทัล: ใบหน้าที่ถูกตรวจจับจะถูกเปลี่ยนให้เป็นข้อมูลดิจิทัลซึ่งระบบสามารถประมวลผลได้ เช่น จุดเด่นสำคัญต่าง ๆ บนใบหน้า (landmarks) เช่น จุดที่มุมตา ขอบปาก ปลายจมูก เป็นต้น
  • การวิเคราะห์คุณลักษณะ (Feature Extraction): AI จะดึงคุณลักษณะที่สำคัญจากใบหน้า เช่น ระยะห่างระหว่างตา โครงสร้างของจมูก และลักษณะของขากรรไกร
  • การสร้างเวกเตอร์ใบหน้า (Face Vector): ระบบจะสร้างเวกเตอร์ที่เป็นตัวแทนของใบหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น "รหัส" เฉพาะของใบหน้านั้น ๆ ทำให้สามารถเปรียบเทียบกับข้อมูลอื่นได้อย่างแม่นยำ

3. การยืนยันตัวตน (Face Recognition):

รายละเอียด: ขั้นตอนสุดท้ายคือการยืนยันตัวตน โดยการเปรียบเทียบใบหน้าที่ได้รับการวิเคราะห์แล้วกับฐานข้อมูลของใบหน้าที่เคยบันทึกไว้ เพื่อระบุว่าบุคคลในภาพคือใคร

กระบวนการ:

  • การเปรียบเทียบเวกเตอร์ใบหน้า: ระบบจะนำเวกเตอร์ของใบหน้าที่ได้รับจากขั้นตอนการประมวลผลใบหน้า มาเปรียบเทียบกับเวกเตอร์ของใบหน้าที่มีอยู่ในฐานข้อมูล โดยใช้การคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น การวัดระยะห่างในเวกเตอร์ (Euclidean Distance) เพื่อหาความคล้ายคลึง
  • การยืนยันความตรงกัน: ถ้าเวกเตอร์ที่ได้มีความคล้ายคลึงกับข้อมูลที่เก็บไว้เกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนด ระบบจะยืนยันตัวตนว่าเป็นบุคคลนั้น แต่หากไม่ตรงกัน ก็จะระบุว่าไม่สามารถยืนยันตัวตนได้
  • การแจ้งเตือน: หากระบบพบความไม่ตรงกัน อาจมีการแจ้งเตือนเพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือมีการบันทึกเหตุการณ์ไว้เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

ประโยชน์ของ AI Face Scan ในการรักษาความปลอดภัย 

1. การป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต:

 AI Face Scan สามารถช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าสู่พื้นที่หรือข้อมูลที่มีความสำคัญ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสถานที่เช่น สนามบิน ธนาคาร หรือสถานที่ราชการ 

2. การติดตามและบันทึกข้อมูลการเข้าออก: 

 ระบบสแกนใบหน้าสามารถบันทึกข้อมูลการเข้าออกของบุคคลที่ได้รับการสแกนได้อย่างแม่นยำและเป็นระบบ ช่วยให้สามารถติดตามกิจกรรมและการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

3. ลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงหรือใช้บัตรประจำตัวปลอม: 

 ด้วยการใช้ใบหน้าที่เป็นลักษณะเฉพาะของบุคคล AI Face Scan ช่วยลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงบัตรประจำตัว ซึ่งการปลอมแปลงใบหน้านั้นยากกว่ามาก 

4. การตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว:

 ระบบสแกนใบหน้าสามารถแจ้งเตือนการเข้าออกที่ผิดปกติได้ทันที เช่น การเข้าของบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้สามารถดำเนินการป้องกันได้อย่างทันท่วงที 

ความท้าทายและข้อควรระวังในการใช้ AI Face Scan 

1. ความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคล:

 แม้ว่าการสแกนใบหน้าจะเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องเป็นไปอย่างรัดกุม และมีมาตรการในการป้องกันการละเมิดข้อมูลอย่างเคร่งครัด 

2. ความแม่นยำของระบบในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ:

 การสแกนใบหน้ามีความเสี่ยงในเรื่องของความแม่นยำเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยหรือมีสิ่งกีดขวาง ระบบอาจเกิดข้อผิดพลาดในการตรวจจับได้ ดังนั้นการพัฒนาและปรับปรุงระบบให้ทำงานได้ในทุกสภาพแวดล้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ 

3. การปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มผู้ใช้งานทุกกลุ่ม:

 AI Face Scan จะต้องได้รับการฝึกฝนจากฐานข้อมูลที่หลากหลายเพื่อให้สามารถจดจำใบหน้าจากคนทุกเพศทุกวัยได้อย่างเท่าเทียม เพื่อลดการเกิดอคติทางเชื้อชาติหรือเพศในระบบ 

สรุป

 AI Face Scan เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการยืนยันตัวตนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต และเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เทคโนโลยีนี้สามารถถูกนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด 


หากคุณต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ กรุณาเยี่ยมชม --> ko24 หรือติดต่อเรา คลิกที่นี่ 



นิ้ว AI