สัมผัสฮวงจุ้ยของความสำเร็จ

สัมผัสฮวงจุ้ยของความสำเร็จ

เนื้อเรื่อง

​

​ในเมืองที่แสนวุ่นวาย มีหญิงสาวผู้หนึ่งชื่อว่า น้ำเงิน ที่ทำงานเป็นนักออกแบบภายในโดยใช้หลักฮวงจุ้ยเป็นหัวใจหลักของการออกแบบ เธอมีความเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีพลังงานที่เชื่อมโยงกัน และฮวงจุ้ยคือกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อคพลังเหล่านั้น

​วันหนึ่ง เธอได้รับโอกาสใหญ่ในการออกแบบสำนักงานให้กับบริษัทแฟชั่นชื่อดัง ชื่อว่า  "โมเดอร์น สไตล์" บริษัทมีสาขาอยู่ทั่วโลกและเป็นที่รู้จักในด้านการออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่มีสไตล์เฉพาะตัว รวมถึงการสร้างแคมเปญการตลาดที่สร้างสรรค์และมีนวัตกรรมอยู่เสมอ

​โมเดอร์นสไตล์มีคอลเลกชันเสื้อผ้าที่มีลวดลายและสีสันเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ และได้รับการคุ้มครองด้านลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด สินค้าเหล่านี้ไม่เพียงแค่เป็นสินค้าที่วางขาย แต่ยังเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงแบรนด์และภาพลักษณ์ของบริษัท

​บริษัทต้องการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์และเพิ่มผลผลิตให้กับทีมงาน น้ำเงินจึงเลือกใช้ Licensing Model ในการนำเอาลวดลายและสีสันที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทมาใช้ในการออกแบบ ทำให้สำนักงานไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นการสร้างแบรนด์เสริมให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง

​เธอใช้หลักฮวงจุ้ยในการเลือกสี การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และการเลือกสิ่งแวดล้อมภายในสำนักงานให้เอื้อต่อพลังงานที่ดี เช่น การจัดให้มีพื้นที่สำหรับพนักงานได้ทำการผ่อนคลาย การเลือกตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับห้องผู้บริหารเพื่อส่งเสริมให้การตัดสินใจและการเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น

​ผลลัพธ์ที่ตามมาก็เป็นไปอย่างที่น้ำเงินคาดหวัง พนักงานในบริษัทรู้สึกมีความสุขและมีประสิทธิผลมากขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตโดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น บริษัทฯ จึงได้รับความสำเร็จตามที่ต้องการ และน้ำเงินก็ได้รับการยอมรับในฝีมือและความเชี่ยวชาญของเธอ

​เรื่องนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการใช้ฮวงจุ้ยในชีวิตประจำวัน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการนำ Licensing Model มาใช้ในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผล สร้างประโยชน์ให้กับทั้งเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาและผู้ใช้สิทธิ พร้อมทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินนั้นในทางที่เป็นมากกว่าเพียงแค่การใช้งานภายในองค์กรเท่านั้น

หลักการและแนวคิด

​Licensing หรือโมเดลอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ เป็นรูปแบบธุรกิจที่เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ความลับทางการค้า หรือสูตรต่างๆ อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินเหล่านั้นเพื่อผลิต จำหน่าย หรือดัดแปลงผลิตภัณฑ์ต่อไป โดยเจ้าของสิทธิ์จะได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าธรรมเนียมล่วงหน้า (upfront fee) หรือค่าสิทธิตามยอดขาย (royalty fee) จากผู้รับอนุญาต ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและเงื่อนไขในสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์

• ข้อดีของ Licensing Model สำหรับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา ได้แก่
• • สร้างรายได้เพิ่มจากทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ โดยไม่ต้องลงทุนผลิตหรือจัดจำหน่ายเอง
  • ขยายการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ผ่านช่องทางและความชำนาญของผู้รับอนุญาตในท้องถิ่น
  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองและบังคับใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
  • ลดความเสี่ยงและผลกระทบจากความล้มเหลวในตลาด เพราะมีผู้รับภาระแทน
  • เปิดโอกาสในการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หรือการถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกัน

• ข้อดีของ Licensing Model สำหรับผู้รับอนุญาต ได้แก่
• • ได้ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาที่มีคุณค่าโดยไม่ต้องลงทุนวิจัยพัฒนาเองตั้งแต่ต้น
  • ประหยัดเวลาในการนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด (time-to-market) เพราะมีต้นแบบพร้อมใช้แล้ว
  • ได้รับการถ่ายทอดความรู้และคำแนะนำจากเจ้าของสิทธิ์ในการผลิตหรือดำเนินธุรกิจ
  • อาศัยชื่อเสียงและการยอมรับในแบรนด์ของเจ้าของสิทธิ์ในการสร้างความน่าเชื่อถือ
  • หลีกเลี่ยงการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือการฟ้องร้องที่อาจเกิดขึ้นได้

• ตัวอย่างธุรกิจและทรัพย์สินทางปัญญาที่ใช้ Licensing Model ได้แก่
• • ตัวการ์ตูนและคาแรคเตอร์ต่างๆ เช่น Mickey Mouse ของ Disney, Hello Kitty ของ Sanrio
  • แฟรนไชส์ภาพยนตร์ เช่น Star Wars, Harry Potter ที่มีสินค้าลิขสิทธิ์มากมาย
  • เทคโนโลยีและสิทธิบัตรด้านไอที เช่น สิทธิบัตรการออกแบบชิปของ ARM ที่ให้ใช้กับผู้ผลิตสมาร์ตโฟนหลายราย
  • แบรนด์แฟชั่นที่อนุญาตให้ผู้ผลิตอื่นทำสินค้าร่วม (collaboration) เช่น Nike, Adidas, Supreme
  • เพลงและมิวสิควิดีโอที่เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Apple Music, Spotify, YouTube

​โดยสรุป Licensing Model เหมาะกับธุรกิจที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาหรือผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ได้รับความนิยมและมีศักยภาพในการสร้างรายได้จากการอนุญาตให้ผู้อื่นนำไปผลิตหรือดัดแปลงต่อยอด นอกจากนี้ยังเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่ยอมรับ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเร่งระยะเวลาในการทำตลาด ทั้งนี้การออกแบบเงื่อนไขในสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ให้เหมาะสมและเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเลือกพันธมิตรที่น่าเชื่อถือและมีประวัติที่ดี จะช่วยให้เกิดความสำเร็จและผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันในระยะยาว