บ้านหลังใหม่และความท้าทายแห่งโอเพนซอร์ซ

Pay-per-Use (โมเดลจ่ายตามการใช้งาน)
April 4, 2024 by
cs

บ้านหลังใหม่และความท้าทายแห่งโอเพนซอร์ซ


เนื้อเรื่อง


​ดารา และปัณณ์ เป็นคู่สามีภรรยาวัยกลางคนที่ทำงานในวงการเทคโนโลยี พวกเขาตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่เพื่อเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม ระหว่างการวางแผนออกแบบบ้าน พวกเขาได้ค้นพบเกี่ยวกับแนวคิดโอเพนซอร์ซ ซึ่งเป็นการเปิดเผยข้อมูลและร่วมพัฒนางานอย่างเสรีกับชุมชนบนโลกออนไลน์


​ดารากล่าวกับปัณณ์ว่า "นี่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและดีไซน์บ้าน เราจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม วิศวกร และช่างฝีมือจากทั่วโลก มาช่วยแบ่งปันไอเดีย ตรวจสอบและปรับปรุงแบบให้ดียิ่งขึ้น"


​ปัณณ์เห็นด้วย เขากล่าวว่า "ใช่สิ อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องจ้างบริษัทดีไซน์ที่แพงมหาศาล ทั้งยังจะได้บ้านที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยสูงกว่า เพราะมีคนทดสอบและเสนอแนะอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากทั่วทุกมุมโลก"


​จากนั้น ดาราและปัณณ์จึงเข้าร่วมชุมชนออนไลน์ที่ทำงานด้านการออกแบบบ้านและสิ่งปลูกสร้างแบบโอเพนซอร์ซ พวกเขาอัพโหลดแบบร่างเบื้องต้นของบ้านที่วาดจากไอเดียแรกเริ่ม แล้วรอรับคำแนะนำจากนักออกแบบและวิศวกรท่านอื่นๆ ไม่นานก็มีผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศเข้ามาให้คำปรึกษา แก้ไขแบบ และเสนอแนวคิดใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์


​บ้านหลังใหม่ของดาราและปัณณ์จึงค่อยๆ พัฒนาจากบ้านธรรมดาทั่วไป ให้กลายเป็นบ้านหลังยอดเยี่ยมที่ผสมผสานแนวคิดที่โดดเด่นและฟังก์ชันการใช้งานทันสมัยไว้ด้วยกัน พวกเขายังได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการก่อสร้างด้วยวัสดุนำกลับมาใช้ใหม่ และวิธีการประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บ้านหลังนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง


​หลังจากนั้น ดาราและปัณณ์จึงเปิดเผยแบบบ้านสำเร็จรูปให้ชุมชนโอเพนซอร์ซทั่วไปนำไปศึกษาและปรับใช้ได้ฟรี เพื่อตอบแทนความช่วยเหลือและรักษาจิตวิญญาณการแบ่งปันของกลุ่มผู้ร่วมโครงการ ด้วยความประทับใจจากประสบการณ์ในครั้งนี้ พวกเขาจึงตัดสินใจว่า ถ้ามีโอกาสจะทำธุรกิจด้านการก่อสร้างหรือสถาปัตยกรรม ก็จะใช้แนวทางโอเพนซอร์ซเป็นหนึ่งในรูปแบบการดำเนินงานอย่างแน่นอน


หลักการและแนวคิด


​Open-source หรือโมเดลโอเพนซอร์ซ เป็นรูปแบบธุรกิจที่เผยแพร่ซอฟต์แวร์หรือผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของซอร์สโค้ดที่สามารถเข้าถึง ศึกษา ปรับแต่ง และแจกจ่ายต่อได้อย่างอิสระ ภายใต้เงื่อนไขของสัญญาอนุญาตแบบเปิด (open-source license) โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้กับเจ้าของผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบร่วมมือกัน (collaborative development) โดยอาศัยชุมชนนักพัฒนาจากทั่วโลกมาช่วยทดสอบ ปรับปรุง และเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ยืดหยุ่น และปลอดภัยในราคาที่ไม่แพง


  • ธุรกิจที่ใช้โมเดลโอเพนซอร์ซยังสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปด้วย เช่น
    • การขายซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นที่มีฟีเจอร์เสริมหรือการสนับสนุนเพิ่มเติม (commercial open-source)
    • การขายฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซอย่างลงตัว
    • การให้บริการด้านที่ปรึกษา ฝึกอบรม ปรับแต่ง หรือดูแลระบบที่พัฒนาด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ
    • การขายข้อมูลเชิงลึกหรือบริการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจากการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ
    • การได้รับการสนับสนุนจากองค์กรหรือบริษัทที่ใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซ


  • ข้อดีของ Open-source Model สำหรับธุรกิจ ได้แก่
    • ประหยัดต้นทุนในการพัฒนาซอฟต์แวร์และทรัพยากรบุคคล เพราะมีชุมชนช่วยพัฒนาต่อยอดฟรี
    • ลดความเสี่ยงจากข้อบกพร่องและช่องโหว่ เพราะมีคนช่วยกันทดสอบและแก้ไขอย่างกว้างขวาง
    • เพิ่มความน่าเชื่อถือและการยอมรับในตลาด เพราะผู้ใช้สามารถตรวจสอบคุณภาพของซอร์สโค้ดได้
    • มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งหรือนำไปต่อยอด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย
    • ได้ประโยชน์จากการสร้างเครือข่ายนักพัฒนาและผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ในวงกว้าง


  • ข้อควรพิจารณาสำหรับธุรกิจที่ใช้ Open-source Model คือ
    • ต้องเลือกสัญญาอนุญาตโอเพนซอร์ซ (เช่น GPL, MIT, Apache) ที่เหมาะกับเป้าหมายทางธุรกิจ
    • ต้องมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการชุมชนนักพัฒนาและรับฟังข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์
    • ต้องสร้างรูปแบบรายได้ที่ยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
    • ต้องรักษาสมดุลระหว่างการเปิดเผยซอร์สโค้ดกับการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเชิงพาณิชย์
    • ต้องวางแผนรับมือความเสี่ยงจากการที่ผู้อื่นอาจใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ไปในทางที่ไม่พึงประสงค์


  • ตัวอย่างธุรกิจและซอฟต์แวร์ที่ใช้ Open-source Model ได้แก่
    • Red Hat ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Linux แบบเสียค่าบำรุงรักษาและสนับสนุน
    • MongoDB บริษัทผู้พัฒนาฐานข้อมูล NoSQL โอเพนซอร์ซ มีรายได้จากการขายเวอร์ชันเอนเทอร์ไพรซ์และบริการคลาวด์
    • Automattic บริษัทผู้พัฒนาโอเพนซอร์ซ WordPress สร้างรายได้จากการขายโดเมน โฮสติ้ง และธีมพรีเมียม
    • Canonical ผู้สร้างระบบปฏิบัติการ Ubuntu Linux ให้บริการด้านคลาวด์ IoT และระบบความปลอดภัยด้วย
    • GitLab แพลตฟอร์มการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ DevOps ขายเวอร์ชัน Enterprise Edition และบริการด้านการฝึกอบรม


​โดยสรุป Open-source Model เหมาะกับธุรกิจด้านซอฟต์แวร์หรือเทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องการความยืดหยุ่นและนวัตกรรมจากการร่วมมือกับชุมชนนักพัฒนาที่กว้างใหญ่ โดยแลกกับการเผยแพร่ซอร์สโค้ดของผลิตภัณฑ์บางส่วนแบบให้เปล่า ทั้งนี้ธุรกิจต้องคิดค้นกลยุทธ์สร้างรายได้ที่เหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายบริการที่มีมูลค่าเพิ่มหรือเวอร์ชันพิเศษของซอฟต์แวร์ ควบคู่ไปกับการสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านโอเพนซอร์ซและผู้สนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบเปิดกว้าง ซึ่งจะดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการได้ในระยะยาว